วลาดิมีร์ เวตรอฟ (Владимар Ипполитович Ветров)
เจ้าหน้าที่ KGB ซึ่งขายข้อมูลลับของสหภาพโซเวียตให้กับฝรั่งเศส โดยใช้ชื่อรหัสว่า “Farewell”
เวตรอฟ เกิดวันที่ 10 ตุลาคม 1932 ในมอสโคว์
พ่อของเวตรอฟชื่ออิปโปลิต (Ippolit Vasilevich Vetrov) เป็นอดีตทหารผ่านศึกจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยในช่วงสงครามโลกเขาทำงานเป็นพ่อครัวในกองทัพ ส่วนแม่ชื่อมาเรีย (Maria Danilovna) มาจากครอบครัวเกษตรกรที่มีฐานะยากจน
สมัยเรียนหนังสือนักเวตรอฟเป็นนักกีฬากรีฑา เขาเคยได้แชมป์ในการแข่งขันระดับเยาวชนในกีฬาแห่งชาติของสหภาพโซเวียต ในการวิ่งระยะ 100 ,200, และ 400 เมตร
1951 เข้าเรียนวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัยบัวแมน (Bauman Moscow Higher Technical School, bmstu.ru) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของสหภาพโซเวียตในด้านวิศวกรรม
1957 สำเร็จการศึกษา หลังจากนั้นก็เข้าทำงานกับโรงงานแซม (SAM plant) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องคำนวณ ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นโรงงานลับ
8 ธันวาคม, แต่งงานกันสเวตลาน่า (Svetlana Barashkova)
1959 เวตรอฟ ส่งใบสมัครเข้าทำงานกับ KGB และไม่นานเขาก็ได้รับงานใหม่ที่กระทรวงควมมั่นคง (the Committee for State Security)
หลังจากนั้นเขาถูกส่งไปฝึกงานด้านสายลับที่โรงเรียนเซอร์ซินสกี้ (Dzerzhinsky School) เป็นเวลาสองปี
1965 ถูกส่งไปทำงานกับ Line X ในฝรั่งเศส ซึ่ง Line X เป็นเครือข่ายสายลับ ส่วนหนึ่งของ Directorate T ซึ่งเป็นแผนกจารกรรมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ KGB
ระหว่างอยู่ในฝรั่งเศสเวดรอฟ ได้รู้จักกับแจ๊ค พรีวูสต์ (Jacques Prevost) ซึ่งเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัท Thomson CSF บริษัทของฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิสก์สำหรับงานด้านอวกาศและการป้องกันประเทศ
Thomson CSF เป็นบริษัทที่ฝรั่งเศสตั้งใจขึ้นเพื่อติดต่อทำการค้ากับสหภาพโซเวียตและใช้เป็นเหยื่อล่อในการสอดแนมโซเวียตด้วยเช่นกัน
1974 เวดรอฟถูกส่งไปยังแคนนาดา
1975 ถูกเรียกตัวกลับมายังสหภาพโซเวียต ซึ่งเวดรอฟถูกย้ายให้ไปทำงานใน Directorate T มีหน้าที่คอยตรวจสอบข้อมูลทางเทคโนโลยีที่ถูกจารกรรมและส่งเข้ามาจากต่างประเทส ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เวดรอฟเข้าถึงข้อมูลที่มีชั้นความลับสูง
1981 เวดรอฟติดต่อกับแจ๊ค พรีวูสต์ เพื่อนของเขาในฝรั่งเศส เพื่อให้เขาได้ติดต่อกับหน่วย DST (Direction de la surveillance du territoire) ของฝรั่งเศส เพื่อเสนอขายข้อมูลลับของสหภาพโซเวียตให้ โดยเขาได้ค่าตอบแทน 25,500 รูเบิ้ล ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับเงินเดือนของเขาถึงสี่ปี
เวดรอฟนั้นใช้ชื่อรหัสว่า “Farewell” ในการส่งเอกสารลับให้กับ DST ซึ่งข้อมูลที่เวดรอฟส่งให้กับฝรั่งเศส เป็นเอกสารลับกว่า 4,000 ชิ้น และยังมีรายชื่อของเจ้าหน้าที่สายลับกว่าอีกหลายร้อยคนทีทำงานอยู่ทั่วโลก ซึ่งข้อมูลที่เวตรอฟส่งให้ฝรั่งเศสนั้นถูกเรียกรวมกันว่า Farewell Dossier
1982 22 กุมภาพันธ์, เวตรอฟ เพราะฤทธิ์ของสุรา ทำให้เวตรอฟพยายามที่จะสังหารโอลก้า (Olga Oshchenko) ซึ่งเป็นชู้รักของเขาเอง โดยเวดรอฟนัดเจอกับโอลก้า ที่หมู่บ้านแคทเธอรีนอฟก้า (Ekaterinovka village) ในมอสโคว์ เขาพาเธอออกไปเดินเล่น ก่อนนี่จะพยายามฆ่าโอลก้า เพราะเวดรอฟคิดว่าโอลก้าน่าจะระแคะระคายเกี่ยวกับการที่เขาขายข้อมูลให้กับฝรั่งเศส
เวดรอฟสังหารโอลก้าโดยใช้ขวดแชมเปญแทงที่คอของเธอ แตว่าฝ่ายหญิงต่อสู้ เวดรอฟจึงใช้ไขควงแทงเข้าที่ตัวเธอหลายครั้งจนเสียชีวิต ระหว่างนั้นก็มีชายคนหนึ่ง ชื่อยูริ ครีวิช (Yuri Krivich) วัย 50 ปี ผ่านเข้ามาเห็นเหตุการณ์ เวดรอฟจึงใช้ส้อมแทงเขาที่หัวใจจนเสียชีวิตไปด้วย
3 พฤศจิกายน, เวดรอฟถูกตัดสินจำคุก เป็นเวลา 15 ปี ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งระหว่างที่อยู่ในคุก เวดรอฟได้แอบส่งจดหมายหาสเว็ตลาน่าภรรยาของเขา ให้ช่วยแจ้งข่าวให้กับฝรั่งเศสว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาบ้าง แต่ว่าจดหมายของเวดรอฟถูก KGB ดักยึดเอาไว้ได้ ทำให้ความลับที่เวดรอฟแอบทำงานให้ฝรั่งเศสถูกเปิดเผย
1983 สิงหาคม, เวดรอฟ ถูกตัดสินว่าเป็นกบฏและทรยศต่อชาติ
14 ธันวาคม, เวดรอฟถูกตัดสินประหารชีวิต
1985 23 มกราคม, เสียชีวิตด้วยการถูกยิงเป้า ในมอสโคว์