พระโพธิธรรม (Bodhidharma, 菩提達摩) หรือ ตั๊กม้อ (Damo, 達摩)
พระโพธิธรรม หรือ ตั๊กม้อ มีชีวิตอยู่ระหว่างศตวรรษที่ 5-6 เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำเอาพุทธนิกาย ฉาน (禪宗, Chán) หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า นิกายเซน (Zen) เข้าไปเผยแพร่ในประเทศจีน
ประวัติของตั๊กม้อนั้นไม่ชัดเจน แต่ว่ามีอยู่สองความเชื่อหลัก คือ 1. บอกว่าตั๊กม้อเป็นชาวเปอร์เซีย และอีกความเชื่อหนึ่งบอกว่าตั๊กม้อเป็นชาวอินเดีย
เอกสารที่บันทึกเกี่ยวกับตั๊กม้อ
- 續高僧傳 (Xù gāosēng zhuàn, Biographies of Eminent Monks ) โดย เต้าเชียน (道宣, Daoxuan) พระในราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty) โดยบรรยายว่าพระโพธิธรรมเป็นนักบวชจากอินเดียตอนใต้ ในลัทธิมหายาน ได้ออกเดินทางโดยใช้เส้นทางทางทะเลมายังจีน โดยมาขึ้นที่เมืองหนานเย่ (Nanyue) ในสมัยราชวงศ์ซ่ง (Liu Song Dynasty) ต่อมาจึงเดินทางไปยังเมืองลั่วหยาง (Loyang) ของอาณาจักรเหว่ยเหนือ (Norther Wei) เพื่อเผยแพร่ศาสนา แต่ว่าไม่สำเร็จ แต่ว่าได้ศิษย์มาสองคน คือ ไต้ซือฮุยเข่อ (大祖慧可,Huike) และเต๋าหยู (Daoyou) ไต้ซือฮุยเข่ต่อมากลายเป็นพระสังฆราชองค์ที่ 2 ของนิกายเซนต่อจากตั๊กม้อ … หนังสือเล่มนี้ยังบอกด้วยว่า ตั๊กม้อเสียชีวิตที่ริมฝั่งแม่น้ำลั่ว (Lou river) ในเหอหนาน
- 洛陽伽藍記 (Luoyang Jia Lan Ji ,The History of the monasteries of Luoyang, ประวัติของพระอารามในเมืองลั๊วหยาง) โดย หยาง ชวนจือ (楊衒之, Yang Xuanzhi) ซึ่งพิมพ์ในปี 547 หยาง ชวนจือได้บันทีกเอาไว้ว่าเขาได้เดินทางไปยังวัดหยงหนิง (Yong Ning Temple) แล้วมีโอกาสได้พบกับพระชาวเปอร์เซีย ชื่อว่า สมณะโพธิธรรม (Sramana Bodhidharma) ซึ่งขณะนั้นพระมีอายุได้ 150 ปี แล้ว
ประวัติตามความเชื่อว่าตั๊กม้อ เป็นเปอร์เซีย
480 ตั๊กม้อเดินทางเข้าไปยังประเทศจีน โดยข้ามเทือกเขาหิมาลัย โดยเข้าไปในจีนทางตอนใต้ ตรงกับช่วงของราชวงศ์ เหลียง (Liang dynasty) ในรัชสมัยของจักรพรรดิอู่ (Wu Emperor of Liang) จักรพรรดิอู๋เป็นจักรพรรดิที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก จนในปี 517 ได้สั่งให้มีการทำลายวัดของลัทธิเต๋า (Taoist Temple) และเปลี่ยนเป็นวัดพุทธ จักรรดิอู่ถูกเปรียบว่าเป็นพระเจ้าอโศก (Asoka , The Great) แห่งเมืองจีน
520 ราวปี 520 ตั๊กม้อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าจักรพรรดิอู่ ซึ่งตำนานเล่าว่าจักรพรรดิได้รับสั่งถามตั๊กม้อว่าเพราะองค์ได้สร้างวัดพุทธขึ้นมากมายและก็ยังมอบเงินบริจาคสนับสนุนมหาศาล พระองค์จะได้บุญมากเท่าไหร่ ?
ตั๊กม้อตอบว่า, “ไม่ได้เลย เพราะการทำโดยหวังสิ่งตอบแทนเป็นกิเลส”
เมื่อได้ฟังคำตอบ จักรพรรดิอู่ก็ทรงไม่พอพระทับ ตั๊กม้อเดินทางออกจากเหลียงมุ่งไปทางเหนือ ไปยังอาณจักรเหว่ยเหนือ (Northern Wei)
523 เดินทางไปยังเมืองเหอหนาน (Henan) และต่อมาก็ได้ก่อตั้งวัดเส้าหลิน (Shaolin Monastery) ขึ้นมาที่เมืองนี้
ประวัติตามความเชื่อว่าตั๊กม้อเป็นชาวอินเดีย
เป็นโอรสคนที่สองของกษัตริย์สุกันธะ(King Sugandha) แห่งราชวงศ์ Pallavas Dynasty ซึ่งปกครองอาณาจักรกันชิปุราม (Kanchipuram) ใกล้กับมาดรัส (Madras) กันชิปุรามซึ่งเป็นอาณาจักรทางตอนกลางของอินเดียปัจจุบัน
เมื่ออายุได้ 7 ปี ได้เรียนหนังสือกับครูชื่อปราชญ์นาตระ (Prajnatara) ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อขององค์ชาย จาก Bodhitara เป็น Bodhidharma เมื่อเติบใหญ่ขึ้น ก็กลายเป็นนักรบใช้ชื่อ Kshatriya
เมื่อพระบิดาของเจ้าชายสวรรคต เจ้าชายยังคงช่วยครูของเขาเผยแพร่พุทธศาสนาต่อไปอีกหลายปี จนกระทั้งครูของเขาเสียชีวิต โพธิธรรม จึงได้ออกเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในจีน โดยใช้เส้นทางทางทะเล
ชาวอินเดียยังยกย่องตั๊กม้อว่าเป็นพระสังฆราช องค์ที่ 28 ของนิกายมหายาน (Mahayana) ในอินเดีย และสังฆราชองค์แรกของจีน
เมื่อมายังจีน ได้เข้าทำงานในราชสำนักของจักรพรรดิวู ได (Emperor Wu Dai, 465-550) แต่ว่าเมื่อเห็นว่าจักรพรรดิไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับคำสอนของศาสนาที่เขาสอน จึงได้ออกเดินทางข้ามแม่น้ำแยงซีมายังลัวหยาง (Luoyang) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาของจีนเวลานั้น แต่ว่าในลัวหยางตั๊กม้อถูกทำร้ายและทารุณ มีชีวิตอย่างยากลำบาก จึงได้ออกเดินทางอีก และสุดท้ายได้มายังวัดเส้าหลิน (Shaolin Temple) ในฮูหนาน (Henan Province)
ตั๊กม้อได้ทำวิปัสนากรรมฐานอยู่ในวัดเส้าหลินนานกว่า 9 ปี และระหว่างนี้ได้มีพระจีนชื่อว่า Shen Guang ได้มาศึกษาเป็นลูกศิษย์ของตั๊กม้อ
วิชาซึ่งตั๊กม้อ เป็นผู้คิดขึ้น
- ซีสุ่ยจิง (洗髓經 , Xǐsuǐjīng)
- อี้จินจิง (易筋经 ,Yijinjing, คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอน)
- ฉีบาลัวะฮั่นโชว(十八羅漢手, Shiba luohan shou , ฝ่ามือ 18 อรหันต์)
เรื่องเล่าเกี่ยวกับตั๊กม้อ
1. ตำนานยังเล่าว่า ตั๊กม้อ เป็นคนทำให้เกิด ต้นชา (tea plant) ขึ้นมา เมื่อมีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่ตั๊กม้อกำลังนั่งสมาธิอยู่ภายในถ้ำ แต่ว่าเขารู้สึกง่วงจนรู้สึกว่าหนังตาหนักจนจะปิดให้ได้ แต่ว่าตั๊กม้อตั้งใจที่จะไม่นอน จึงได้ฉีกหนังตาของตัวเองออก และเควี้ยงทิ้งลงบนพื้นดิน และจุดที่หนังตาของตั๊กม้อตกลงนั้นก็ได้มีต้นชางอกขึ้นมา