อเล็กซานเดอร์ เซงดีส ดิเอลเวย์เดอ (Alexandre Saint-Yves d’Alveydre)
Synarchism
เซงดีส เกิดวันที่ 26 มีนาคม 1842 ในปารีส, ฝรั่งเศส พ่อของเขาเป็นจิตแพทย์ชื่อกิโยม (Guillaume-Alexandre Saint-Yves) เซงดีสเป็นลูกคนโตในพี่น้องทั้งหมดสามคน
1863 ย้ายมาอยู่ในเจอร์ซีย์ และได้รู้จักกับวิคเตอร์ ฮูโก้ (Victor Hugo)
1870 กลับมายังฝรั่งเศส และได้ร่วมรบในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (Franco-Prussian War, 1870-1871)
หลังจากสงครามยุติ เซงดีส ก็ได้เข้าทำงานราชการในกระทรวงมหาดไทย
1877 6 กันยายน, แต่งงานกับเคาน์เตสแมรี่ (Countess Marie Victorie de Riznitch-Keller) ซึ่งการแต่งงานนี้ทำให้เซงดีสราวกับหนูตกถังข้าวสาร ทำให้เขาสามารถที่จะทุ่มเทเวลาไปใช้ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องราวลึกลับ เหนือธรรมชาติ ตามความสนใจของเขาได้อย่างเต็มที
ตีพิมพ์ผลงานบทกวี ในชื่อ “Lyrical Testament”
1879 เขียน “De l’utilité des algues marines” ซึ่งเซงดีสอธิบายการศึกษาและการสร้างโรงงานสำหรับผลิตสาหร่ายทะเลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ แต่ว่าตัวเขาเองขาดเงินทุนที่จะสร้างโรงงานขึ้นมา
1880 ได้รับยศเป็นมาร์กีสแห่งอัลเวย์ดี (Marquis of Alveydre)
1884 ตีพิมพ์ “Mission des Juifs” และไม่นานหลังจากหนังสือพิมพ์ออกมา เซงดีสก็ได้สนใจเรียนภาษาสันสฤต เพื่อที่จะได้อ่านเอกสารโบราณ
พิมพ์ “La France vraie” ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เขาได้อธิบายคำศัพท์ “Synarchy/ ไซนาร์คี” ซึ่งเขาอธิบายว่ามันหมายถึงรัฐบาลในอุดมคติ และยังเป็นคำที่ตรงข้ามกับอนาธิปไตย (anarychy) ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานรั้น เซงดีสมองว่าความร่วมมือกันระหว่างชนชั้นนั้นสำคัญกว่าความขัดแย้งระหว่างกัน โดยการปกครองแบบไซนาร์คีตามแนวคิดของเซงดีสมีการแบ่งแยกอำนาจออกเป็น 3 ส่วน หรือ 3 สภา คือ สภาเศรษฐกิจ, สภานิติบัญญัติ, และวิทยาศาสตร์
เข้าเป็นสมาชิกสมาคมลับโรสิครูเซียน (Rosicrucian) และฟรีเมสัน (Freemason)
1885 เซงดีสได้พบกับอาร์ดจิจ ชาริฟ (Hardjij Charipf) ซึ่งซารีฟ นั้นเป็นชาวอินเดียว เกิดในปี 1838 แต่ว่าต้องออกจากอินเดียช่วงการประท้วงที่เปปอย (Sepoys Revolt) มาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสโดยทำอาชีพขายนกและสอนภาษา แต่ภูมิหลังของซารีฟก็คลุมเครือ บางข้อมูลบอกว่าเขาเป็นเจ้าชาย บ้างบอกว่าเป็นชาวอัฟกานิสถาน
ซาริฟ นั้นได้มาทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาสันสฤตให้กับเซงดีส ซึ่งระหว่างที่เรียนนั้นทำให้เซงดีสได้รับรู้เรื่องราวของดินแดนศักดิ์สิทธิลึกลับที่ชื่อว่าอะการ์ธ่า (Agartha)
1886 เขีย Mission de I’Inde en Europe ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของอาณาจักรอะการ์ธ่า ดินแดนลึกลับซึ่งเชื่อว่าอยู่ใต้พิภพ มีอายุอยู่ในช่วง 3,200 ปีก่อนคริสต์กาล เซงดีสยังอ้างด้วยว่าอะการ์ธ่าเป็นต้นแบบการปกครองแบบไซนาร์คี
แต่ว่าเซงดีสไม่นานหลังหนังสือพิมพ์ออกมา เซงดีสได้ทำลาย Mission de l’Inde en Europe ไปด้วยตัวเอง เพราะเขากังวลว่าจะเป็นการเอาความลับของดินแดนลับมาเปิดเผยมากเกินไป จะทำให้อันตรายตกแก่เพื่อนจากดินแดนตะวันออกของเขาด้วย เซงดีสจึงได้เผาหนังสือที่เขาเก็บเอาไว้ลงเสีย แต่ว่าฉบับที่ถูกพิมพ์ออกมานั้นเป็นฉบับที่เจอราร์ด เอนคอส (Gérard Encausse) เพื่อนของเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งลัทธิมาร์ตินิสซึ่ม (Martinist Order)เก็บไว้แล้วพิมพ์ออกมาในปี 1910
1909 5 กุมภาพันธ์, เสียชีวิต
ผลงานเขียน
- Thèse de Médecine , 1838.
- Le Retour du Christ, 1874.
- Les Clefs de l’Orient., 1877
- Testament lyrique, 1877
- Le Mystère du Progrès, 1878.
- De l’utilité des algues marines, 1879.
- Mission des Souverains, 1882
- Mission des Ouvriers, 1882
- Mission des Juifs (Mission of the Jews) , 1884
- Mission de l’Inde en Europe (Mission of India in Europe), 1886
- Les Funérailles de Victor Hugo, 1885.
- La France vraie ou la Mission des Français, 1887.
- Vœux du syndicat de la Presse économique, 1887.
- Les États-généraux du suffrage universel, 1888.
- Le Centenaire de 1789 – Sa conclusion, 1889.
- L’Ordre économique dans l’Electorat et dans l’État, 1889.
- Le Poème de la Reine, 1889.
- Maternité royale et mariages royaux, 1889.
- L’Empereur Alexandre III épopée russe, 1889.
- Jeanne d’Arc victorieuse, 1890.
- Théogonie des Patriarches., 1909
- L’Archéomètre, 1910